เมื่อก่อนการสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress นั้นถูกออกแบบสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นเว็บบล็อก อ่านประวัติ WordPress ได้จากลิ้งค์นี้ คลิก แต่ภายหลังก็ได้มีการพัฒนาเทมเพลตให้มีดีไซน์เพื่อการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น และเริ่มมีความยืดหยุ่นให้ผู้ใช้งานสามารถกำหนดออกแบบหน้า Homepage ผ่านทาง Theme Options ได้ จากนั้นก็เริ่มมีการใช้ปลั๊กอิน Shortcode เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถที่จะออกแบบเองได้ และกลายมาเป็น Page Builder แบบ Drag& Drop ในที่สุด
ข้อดีของการใช้ Page Builder
- ออกแบบหน้าตาของเว็บได้ด้วยตนเอง โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องโค้ดเลย
- สะดวกในการปรับแต่งแก้ไขเมื่อไหร่ก็ได้ เมื่อใช้งานเป็นแล้วสามารถทำได้เอง ไม่ต้องรอโปรแกรมเมอร์
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีหัวทางด้านการออกแบบอยู่แล้ว สามารถใช้ Page Builder เพื่อออกแบบเว็บได้สวยยิ่งขึ้น
- การใช้งานง่าย แบบลากวาง พร้อมการแสดงผลการเปลี่ยนแปลงในทันทีที่ทำการเปลี่ยนแปลง
- สามารถที่จะทำเว็บได้อย่างรวดเร็วจากการใช้เทมเพลตสำเร็จรูปมาแก้ไขได้
- สามารถส่งต่องานให้คนอื่นที่ใช้งาน Page Builder ตัวเดียวกันแก้ไขได้ง่าย โดยไม่จำเป็นต้องรื้อโค้ด
- Page Builder บางตัว อาจจะสร้างโค้ดที่หนักโดยไม่จำเป็นซึ่งอาจจะทำให้ข้อหาในเรื่องความเร็ว
- Page Builder บางตัว อาจจะยังแสดงเป็น Shortcode เมื่อเราถอนการติดตั้งปลั๊กอิน ทำให้แก้ไขข้อมูลลำบาก
- ต้องมีการอัพเดตสม่ำเสมอเพื่อให้สามารถใช้งานร่วมกับ WordPress และปลั๊กอินอื่นๆ ได้ดีอยู่ตลอดเวลา
- หากใช้ไม่ชำนาญพอ อาจจะทำให้เว็บที่ได้ออกมามีหน้าตาซ้ำๆ กันได้
- การใช้ Page Builder บางตัว อาจจะต้องคำนึงถึงอนาคตด้วย เพราะหากเราหยุดใช้หรือเปลี่ยนไปใช้ตัวอื่นเมื่อไหร่ มันก็จะกลายร่างเป็น Shortcode ทันที ทำให้อ่านข้อมูลไม่รู้เรื่อง เราจึงอาจจะต้องแก้ไขทีละหน้าจนกว่าจะเสร็จทุกหน้า